วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ข่าวหุ้น - กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน:: ILINKกำไร150ล้าน

ข่าวหุ้น - กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน:: ILINKกำไร150ล้าน
ยันปีหน้าเติบโต20%
ข่าวหน้าหนึ่ง วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2556
ผู้เข้าชม : 2 คน
ILINK มั่นใจปีนี้ทำกำไรไม่ต่ำ 150 ล้านบาท ไตรมาส 4/56 รับรู้รายได้ 2 โครงการ 400 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ารายได้และกำไรปี 57 เติบโต 20% โชว์งานในมือ 1,950 ล้านบาท จ่อประมูลเคเบิลใต้น้ำเกาะเต่า มูลค่ากว่า 1,600 ล้านบาท


นายณัฐนัย อนันตรัมพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK เปิดเผยว่า กำไรสุทธิในปี 2556 จะเป็นไปตามเป้าหมายตั้งไว้มากกว่า 150 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากปี 2555 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 116.46 ล้านบาท

เนื่องจากในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมาบริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 89.61 ล้านบาท และช่วงไตรมาส 4/56 บริษัทจะมีการรับรู้รายได้บางส่วนจากโครงการก่อสร้าง Submarine Cable 22 เควี ระยะทาง 50 กม.ไปยังเกาะกูด เกาะหมาก จ.ตราด ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ที่เซ็นสัญญาไปเมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา มูลค่าโครงการ 1,150 ล้านบาท

ประกอบกับบริษัทชนะการประมูลโครงการก่อสร้าง Submarine Cable 115 เควี ระยะทาง 15 กม. ไปยังเกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท และรอเซ็นสัญญาในต้นเดือนธ.ค.นี้ ดังนั้นหลังจากเซ็นสัญญาจะมีการรับรู้รายได้บางส่วนในไตรมาส 4/56 ทันที

“มั่นใจว่ากำไรปีนี้เติบโตมากกว่า 150 ล้านบาท ตามเป้าที่ตั้งไว้ เพราะบริษัทมีการรับรู้รายได้จากโครงการ Submarine Cable เกาะกูด เกาะหมาก รวมทั้งรับรู้รายได้จากโครงการ Submarine Cable เกาะพงัน ที่คาดว่าจะเซ็นสัญญาในต้นเดือน ธ.ค.นี้ รวม 2 โครงการรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 400 ล้านบาท ที่เหลือรับรู้รายได้ในปีหน้า ขณะที่รายได้ในปีนี้คาดว่าจะทำได้ใกล้เคียงเป้าที่ตั้งไว้ที่ 1,950 ล้านบาท” นายณัฐนัย กล่าว

สำหรับโครงข่าย Interlink Fiber Optic Network ได้สร้างเสร็จเรียบร้อยในบางส่วน แต่มีการขายแล้ว โดยในขณะนี้มีลูกค้าเป็นโมบาย โอเปอเรเตอร์ ได้แก่ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ขณะที่ศูนย์ Data Center (DC) เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้ให้บริการ อยู่ระหว่างทดสอบระบบ

ส่วนในปี 2557 บริษัทตั้งเป้าหมายมีกำไรและรายได้เติบโต 20% จากปี 2556 เนื่องจากบริษัทมีมูลค่างานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 1,950 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการก่อสร้าง Submarine Cable ไปยังเกาะกูด เกาะหมาก จ.ตราด ของ กฟภ.มูลค่า 1,150 ล้านบาท

โครงการก่อสร้าง Submarine Cable ยังเกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี มูลค่า 800 ล้านบาท ซึ่งจะมีการรับรู้รายได้เต็มปีทั้ง 2 โครงการ รวมทั้งธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณปีหน้า คาดว่าจะเติบโตประมาณ 20-30% สูงกว่าตลาดรวมที่คาดว่าจะเติบโตประมาณ 19%

นอกจากนี้ บริษัทเตรียมเข้าประมูลโครงการก่อสร้าง Submarine Cable 115 เควี ไปยังเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี 33 เควี ระยะทาง 45 กม. มูลค่า 1,686 ล้านบาท โดยขณะนี้โครงการดังกล่าวผ่านคณะกรรมการ (บอร์ด) ของกฟภ.แล้ว อยู่ระหว่างส่งเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอความเห็นชอบ และจัดทำประชาพิจารณ์ คาดว่าจะอนุมัติงบประมาณปี 2558

นายณัฐนัย กล่าวว่า ช่วง 2 ปีจากนี้ บริษัทไม่มีแผนเพิ่มทุน เนื่องจากปัจจุบันยังไม่เห็นความจำเป็น และยังไม่มีโครงการใหญ่ๆ เข้ามา รวมทั้งเงินที่ธนาคารสนับสนุนยังมีอยู่ และในอนาคตกำไรเพิ่มขึ้น ก็จะมีเงินทุนหมุนเวียนเข้ามาเพิ่ม

วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ก.ล.ต. เปรียบเทียบปรับผู้กระทำผิดกรณีใช้ข้อมูลภายในซื้อหุ้น BGH รวมกว่า 10 ล้านบาท

ก.ล.ต.ปรับผู้บริหารอินไซเดอร์ซื้อหุ้น BGH
27 พฤศจิกายน 2556 เวลา 20:43 น. |เปิดอ่าน 2,079 | ความคิดเห็น 0

26

14

More Sharing Services
ทั้งหมด +


ก.ล.ต. เปรียบเทียบปรับผู้กระทำผิดกรณีใช้ข้อมูลภายในซื้อหุ้น BGH รวมกว่า 10 ล้านบาท

ก.ล.ต. เปิดเผยกรณีคณะกรรมการเปรียบเทียบมีคำสั่งเปรียบเทียบนายธวัชวงค์ ธะนะสุมิต ในฐานะตัวการกรณีใช้ข้อมูลภายในซื้อหุ้นบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) (BGH) เพื่อตนเองและบุคคลอื่น และนางสาววิพร จิตรสมหวัง และนางนฤมล ใจหนักแน่น ในฐานะผู้ช่วยเหลือสนับสนุน เป็นจำนวนเงินรวม 10,488,534.01 บาท

ก.ล.ต. ได้รับแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ระหว่างวันที่ 16 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 7 ธันวาคม 2553 นายธวัชวงค์ ธะนะสุมิต ในฐานะที่ดำรงตำแหน่งกรรมการของ BGH ได้ซื้อหุ้น BGH จำนวน 1,030,000 หุ้น ผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนางสาววิพรและนางนฤมล เพื่อประโยชน์ของตนเองและบุคคลอื่นในประการที่น่าจะเป็นการเอาเปรียบต่อบุคคลภายนอก โดยอาศัยข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญด้านบวกต่อการเปลี่ยนแปลงราคาของหุ้น BGH ที่ยังมิได้เปิดเผยต่อประชาชนเกี่ยวกับธุรกรรมที่ BGH เข้าควบรวมกิจการกับบริษัท เฮลท์ เน็ตเวิร์ค จำกัด (มหาชน) ด้วยการเข้าซื้อและรับโอนกิจการทั้งหมดของ HN (Entire Business Transfer) ในช่วงปี 2553 ต่อเนื่องปี 2554 ซึ่งส่งผลให้ BGH เป็นเครือข่ายกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่และมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มสูงขึ้น  ทั้งนี้ มีนางสาววิพร และนางนฤมล ให้ความช่วยเหลือ โดยให้นายธวัชวงค์ยืมใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ และอำนวยความสะดวกในการชำระเงินค่าซื้อและรับเงินค่าขายหุ้น BGH ในบัญชีซื้อขายดังกล่าว

การกระทำของนายธวัชวงค์ ซึ่งเป็นบุคคลวงในเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 241 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ส่วนการกระทำของนางสาววิพรและนางนฤมล เข้าข่ายเป็นการช่วยเหลือสนับสนุนการกระทำผิดของนายธวัชวงค์ เป็นความผิดตามมาตรา 241 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ ประกอบมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา

ทั้งนี้ นายธวัชวงค์ นางสาววิพร และนางนฤมล ยินยอมเข้ารับการเปรียบเทียบ ซึ่งคณะกรรมการเปรียบเทียบได้เปรียบเทียบปรับนายธวัชวงค์ในฐานะตัวการ เป็นเงิน 9,821,867.35 บาท  นางสาววิพรและนางนฤมล ในฐานะเป็นผู้ช่วยเหลือสนับสนุน เป็นเงินรายละ 333,333.33 บาท

บอร์ด กนง.มีติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25%

บอร์ด กนง.มีติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25%

วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน 2556 เวลา 14:35:06 น. 
ผู้เข้าชม : 792 คน 

คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาที่ 2.25% จากเดิมที่ 2.50% พร้อมกับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ (GDP) ปีนี้เหลือเติบโตเพียง 3% จากเดิม 3.7% คาดว่าปีหน้าจะเติบโต 4% ต้นๆ โดยมองว่าเศรษฐกิจยังเปราะบางและมีความเสี่ยง หลังจากเศรษฐกิจในไตรมาส 3/56 ขยายตัวต่ำกว่าคาด และในเดือน ต.ค.ยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวชัดเจน

วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Thaksin predicts “shining new age” after King’s death-Times

Thaksin predicts “shining new age” after King’s death-Times

November 9, 2009

Ousted Thai leader Thaksin Shinawatra calls for ‘shining’ new age after King’s death
The Times: November 9, 2009

Thaksin Shinawatra, the ousted Prime Minister of Thailand and opposition leader in exile, has called for reform of the country’s revered monarchy and spoken of a “shining” new age after the era of the ailing King, Bhumibol Adulyadej.
Mr Thaksin’s remarks, which touch on taboo areas of Thai politics, come as he prepares to return to South-East Asia from exile in a move which has caused turmoil in Bangkok. He plans to arrive in Cambodia, Thailand’s neighbour, tomorrow, on a visit which has caused an intense row between the countries.
The appointment of Mr Thaksin as an “adviser” by Hun Sen, the Cambodian Prime Minister, has angered and humil-iated Abhisit Vejjajiva, the Thai Prime Minister, and raised suspicions that Mr Thaksin is plotting a political comeback from a base in Cambodia.
The two countries have withdrawn their ambassadors and there are fears of military skirmishes along the disputed border, following clashes last year.
Mr Thaksin’s remarks about the monarchy are further evidence that, three years after being forced out as democratically elected Prime Minister in a military coup, he is still contemplating a political future in Thailand. His remarks also suggest that he is placing hope in the man likely to accede to the throne, Maha Vajiralongkorn, the Crown Prince.
“He’s not the King yet. He may not be shining [now],” Mr Thaksin told The Times in an interview from his exile in the Arabian Gulf city of Dubai. “But after he becomes the King I’m confident he can be shining … it’s not his time yet. But when the time comes I think he will be able to perform.”
Mr Thaksin was the most popular — and the most divisive — Prime Minister in his country’s recent history. Since the coup in 2006 Thailand has been torn by frequently violent demonstrations by his “Red Shirt” supporters and the “Yellow Shirts” who oppose him in the name of King Bhumibol.
The King has not explicitly endorsed their movement but many of Mr Thaksin’s supporters believe the coup could not have happened without his consent.
Mr Thaksin is careful to emphasise deep loyalty to King Bhumibol but is deeply critical of the “palace circle”; principally, members of the Privy Council. He blames them, along with senior generals, for the coup. King Bhumibol quickly accepted the coup and has ignored a petition signed by 3.5 million Thais to pardon Mr Thaksin. However, the King has been in hospital for seven weeks, reportedly suffering from pneumonia, and Thais are looking ahead with trepidation to life after his reign.
Prince Vajiralongkorn is the King’s designated heir but is unpopular with many Thais because of rumours about his private life. Supporters of Mr Thaksin have told The Times that by endorsing the Crown Prince and lending some of his own personal popularity he hopes to gain the support of a future monarch who will not interfere with his political ambitions. “The Crown Prince may not be as popular as His Majesty the King,” Mr Thaksin told The Times. “However, he will have fewer problems because the palace circle will be smaller . . . He had education abroad and he’s young — I think he understands the modern world.”
Mr Thaksin, who was sentenced in absentia to two years in jail for corruption, insists he does not intend to settle in Cambodia — but even his temporary presence there, close to Thailand’s northeast, where he enjoys passionate support, is deeply discomforting for Mr Abhisit.